เมื่อไหร่ที่ควรรีไฟแนนซ์รถและเมื่อไหร่ที่ควรทำรถแลกเงิน

เมื่อไหร่ที่ควรรีไฟแนนซ์รถและเมื่อไหร่ที่ควรทำรถแลกเงิน


สำหรับคนที่อยากจะ รีไฟแนนซ์รถหรือขอ สินเชื่อรถแลกเงินวันนี้คงพอรู้กันดีอยู่แล้วว่า ถ้าเราเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์หรือมีชื่อที่เป็นเจ้าของเล่มทะเบียนรถ เราจะสามารถนำรถยนต์ของเรา รีไฟแนนซ์รถในกรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด หรือสามารถนำรถยนต์ห้องเราไปขอสินเชื่อ รถแลกเงินได้ในกรณีที่รถปลอดภาระแล้ว

หลักการของการ รีไฟแนนซ์รถและ รถแลกเงินเป็นอย่างไรบ้าง

หลักการก็คือการนำเล่มทะเบียนรถยนต์ของเราไปจำนำรถยนต์กับธนาคาร เมื่อธนาคารโอนชื่อกรรมสิทธิ์รถยนต์เราไปเรียบร้อยแล้วก็จะออกสินเชื่อไฟแนนซ์รถยนต์ให้เราเป็นเงินก้อนหรือบัตรเพื่อเอาไปกดเงินสดต่อไป สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงใน.นี้ก็คือธนาคารจะต้องโอนเล่มทะเบียนเพื่อที่จะสามารถยึดรถคืนจากเราได้เสมอในกรณีที่เราไม่ยอมผ่อนชำระเงินกู้ตามสัญญาที่ให้ไว้กับธนาคาร ดังนั้นถ้ารถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซต์คันนั้นไม่ได้เป็นของเราโดยสมบูรณ์ หรือเข้าใจกันง่ายง่ายว่าเราไม่ได้มีชื่อเป็นเจ้าของเล่มทะเบียนอยู่ ก็จะไม่สามารถขอสินเชื่อ รถแลกเงินหรือ รีไฟแนนซ์รถกับธนาคารนั้นได้ จากการศึกษาข้อมูลจาก แหล่งข้อมูลของสินเชื่อรถแลกเงินแล้วรีไฟแนนซ์รถชั้นนำของประเทศไทย https://car.4cash.co ซึ่งมีเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยต่างๆของสินเชื่อ รถแลกเงินและ รีไฟแนนซ์รถอยู่มากมาย พบว่าแทบจะทุกธนาคารที่ระบุว่าต้องเอาชื่อของผู้ที่จะขอกู้เงินให้ตรงกับเจ้าของเล่มทะเบียนคันนั้นด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันกรณีที่เราไปแอบอ้างใช้ทะเบียนรถยนตร์ของคนอื่นเพื่อมาขอสินเชื่อไปใช้เอง ในมุมกลับกันก็เป็นการป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่เราโดนขโมยเล่มทะเบียนรถยนตร์โดยญาติหรือคนรู้จัก แล้วเอาไปสวมรอยเป็นเราเพื่อขอสินเชื่อกับธนาคาร เพราะว่าทุกการปล่อยเงินกู้นั้น สิ่งที่สำคัญสำหรับธนาคารก็คือหลักทรัพย์ค้ำประกัน ถ้าหากไม่สามารถพิสูจน์ตามหลักฐานที่ให้มาว่าเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นจริงๆ การปล่อยสินเชื่อรถแลกเงินเลยรีไฟแนนซ์รถให้กับคนอื่นนับเป็นความผิดร้ายแรงเลยทีเดียวนะครับ

แล้วถ้าได้รับมอบรถยนต์คันนี้มาจากผู้อื่นล่ะ

ในกรณีที่เราได้รับการส่งมอบรถยนต์คันนี้โดยชอบธรรม เช่นโอนจากมรดกของญาติสนิทมิตรสหาย หรือเคยเป็นของพี่น้องมาก่อนแล้วโอนให้กันในภายหลัง ก็สามารถจะขอสินเชื่อ รถแลกเงินและ รีไฟแนนซ์รถได้โดยต้องเอาไปโอนเล่มทะเบียนให้เป็นชื่อของเราให้เรียบร้อยเสียก่อน โดยหลักการโอนชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์นั้นก็ง่ายนิดเดียว คือการไปทำเรื่องโอนที่กรมการขนส่งประจำจังหวัด หรือถ้าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สะดวกก็สามารถมอบอำนาจไปให้กันได้ เพราะว่าทุกวันนี้เวลาขายรถมือสองผู้ขายคนเก่ากับผู้ซื้อคนใหม่ก็ไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากัน เพียงแค่ทำเอกสารการโอนรถให้กันไว้ก็เพียงพอแล้วครับ นอกจากนี้การโอนชื่อเจ้าของเล่มทะเบียนรถอย่างใช้เวลาไม่นานและค่าธรรมเนียมไม่แพงเหมือนกับการเปลี่ยนชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ของอสังหาริมทรัพย์ เช่นบ้านหรือคอนโดและที่ดินอีกด้วย

จะโอนชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ทะเบียนรถ แล้วไปขอ รีไฟแนนซ์รถกลับ รถแลกเงินจะมีเงื่อนไขอะไรบ้าง

โดยทั่วไปแล้วไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติมครับ เพียงแค่รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ที่เพิ่งได้รับโอนมาจากเจ้าของกรรมสิทธิ์คนเก่า จะต้องได้รับโอนมาแล้วไม่ต่ำกว่ากี่เดือน ถึงจะสามารถขอสินเชื่อ รีไฟแนนซ์รถและ รถแลกเงินได้ ซึ่งจำนวนเดือนในที่นี้ก็จะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคารครับ โดยผมอ้างอิงข้อมูลวันนี้จาก https://car.4cash.co ซึ่งได้รวบรวมข้อเสนอและเงื่อนไขจากหลากหลายธนาคารและมีสิ่งฉันนำในประเทศไทยไว้ครบถ้วนทีเดียวครับ