สำหรับคนที่ตั้งใจว่า ผ่อนสินเชื่อรถยนต์ไปสักพักหนึ่ง จะเอารถยนต์ของตัวเองไปรีไฟแนนซ์รถ เพื่อขอวงเงินส่วนต่าง ระหว่างราคารถยนต์กับยอดหนี้คงเหลือ เช่น บางคนกู้ซื้อรถยนต์ราคา 1 ล้านบาท ผ่อนไปแล่ว 500,000 บาท แต่มูลค่าปัจจุบันของรถยนต์คันนี้อาจเหลือเพียง 900,000 บาท ทำให้บุคคลผู้นี้ ก็สามารถขอรีไฟแนนซ์รถกับธนาคารใดธนาคารหนึ่ง เพื่อให้ธนาคารนั้นโอนเงนไปปิดยอดหนี้เก่ากับธนาคารเดิม และให้เงินส่วนต่างกับเรา เพื่อให้เราเอาไปใช้จ่ายส่วนอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการเอาเงินไปแต่งรถ แต่งบ้าน ไปเที่ยว รักษาพยาบาล หรือซท้อของที่อยากได้ เพราะการรีไฟแนนซ์รถเป็นการขอสินเชื่ออเนกประสงค์ จึงไมไ่ด้กำหนดว่า เงินที่ได้ไปจะต้องเอาไปทำอะไร
ใครๆก็อยากรีไฟแนนซ์รถ
พอรู้กันอย่างนี้แล้ว ว่ารีไฟแนนซ์รถมีประโยชน์อย่างไร แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่าการจะ
รีไฟแนนซ์รถ จำเป็นต้องผ่อนมาแล้วกี่เดือน หรือผ่อนไปกี่บาทแบ้วจึงจะสามารถรีไฟแนนซ์รถได้ ถ้าหากเราวางแผนการเงินผิดพลาด แล้วอยากจะ
รีไฟแนนซ์รถตั้งแต่เดือนแรกเลยจะทำได้ไหม หรือต้องผ่อนไปกี่ปีก่อน ธนาคารต่างๆจึงจะยอมให้เรารีไฟแนนซ์รถด้วย เพราะพอพูดมาถึงจนาดนี้ ใครๆก็อยากจะรีไฟแนนซ์รถกันทั้งนั้น เพราะสามารถนำเงินสดออกมาใช้ได้เลย แต่ใครบ้างที่จะ
รีไฟแนนซ์รถได้เราจะมาพูดถึงกันในย่อหน้าถัดไปครับ
เวลาที่คุณสามารถรีไฟแนนซ์รถได้
ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่า การ
รีไฟแนนซ์รถไม่เหมือนการรีไฟแนนซ์บ้าน เพราะการรีไฟแนนซ์รถนั้น เราจะต้องเผชิญกับมูลค่าที่ลดลงอย่างรวดเร็วของหลักทรัพย์ค้ำประกันของเรา ซึ่งในที่นี้ก็คือรถยนต์ ตรงข้ามกับบ้านหรือคอนโด ที่นับวันยึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ทำให้การรีไฟแนนซ์รถจะมีปัญหาถ้าหากเราทำทันทีหลังจากผ่อนมาแปปเดียว เนื่องจากวงเงินที่ธนาคารให้ อาจจะน้อยกว่ายอดหนี้คงเหลือเดิมของเรา
โดยปกติแล้วธนาคารจะยินยอมให้รีไฟแนนซ์รถหลังจากผ่อนมาเกินครึ่งนึงของระยะเวลาผ่อนครับ เช่น ผ่อน 5 ปี ถ้าผ่อนมาแล้ว 3 ปี เราจะมีวงเงินส่วนต่างมากพอที่จะรีไฟแนนซ์รถไปแล้วได้ประโยชน์ คุณควรจะลองเข้าไปเช็คก่อนจะเดินไปธนาคารที่
https://car.4cash.co ถ้าหากคุณอยากรู้ว่าธนาคารไหนบ้างที่ให้สินเชื่อ
รีไฟแนนซ์รถ สินเชื่อ
จำนำรถ สินเชื่อ
จำนำทะเบียนรถหรือสินเชื่อ
รถแลกเงิน เพราะคุณจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาหาและเปรียบเทียบด้วยตังเองครับ